ทบทวนหลักการใช้งาน Present Simple Tense

ทบทวนหลักการใช้  Present Simple ปัจจุบันกาล  ซึ่งเป็น Tense ที่เราพบเห็นบ่อยๆ ตามชีวิตประจำวัน  และต้องมีการใช้งานกันเป็นประจำทุกวัน ในการพูด สนทนา การเขียน และการบรรยาย ซึ่งมีหลักการใช้ที่สำคัญ ดังนี้ 
ภาษาอังกฤษ ก็ต้องมีการทบทวน หรือหมั่นทำแบบฝึกหัดบ่อยๆ ทุกวัน จะทำให้การเรียน การสอบ ดีขึ้น แน่นอน รับรอง ได้ sure ๆ 
* ประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 คำกริยาต้องเติม _s,_es 
1: เราใช้งาน Present Simple กับความจริงทั่วไป generally true:
  • The sun rises in the east. พระอาทิตย์ขึ้นทางด้านตะวันออก 
  • People need food. คนต้องการอาหาร 
  • It snows in winter. หิมะตกในหน้าหนาว
  • The sky isn't green. ท้องฟ้าไม่เขียว
  • Plants die without water. ต้นไม้จะตายถ้าขาดน้ำ
  • Two and two make four. สองบวกสองเป็นสี่
2: ใช้กับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เราคิดว่าจะถาวรหรือเกือบๆ จะถาวร เช่น 
  • Where do you live? คุณอาศัยประจำที่ไหน
  • She works in a bank. หล่อนทำงานประจำที่ธนาคาร
  • They love coffee. พวกเขาชอบกาแฟ
  • She has three children. หล่อนมีลูกสามคน
  • am married. ฉันแต่งงานแล้ว 
  • don't like mushrooms. ฉันไม่ชอบกินเห็ด
3: ใช้กับสิ่งที่เราทำเป็นกิจวัตรหรือเป็น นิสัย  habits มักควบคู่ด้วยคำกริยาวิเศษณ์บอกเวลา Adverb Of Frequency 
  • Do you smoke? ปกติคุณสูบบุหรี่ไหม 
  • play tennis every Tuesday. ฉันเล่นเทนนิสทุกวันอังคาร 
  • We often go to the cinema. เราไปดูหนังบ่อยๆ 
  • She gets up at seven o'clock every day. เธอตื่นนอนเวลา 7 โมงเช้าทุกๆวัน 
  • At the weekend, we usually go to the market. เราไปตลาดกันทุกสุดสัปดาห์ 
  • How often do you study English? คุณเรียนภาษาอังกฤษบ่อยแค่ไหน 
  • don't travel very often. ฉันไม่ได้เดินทางบ่อยๆ 
4: เราใช้ simple present tเมื่อกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน หนังสือ การแสดง และ ภาพยนตร์ 
  • The hero dies at the end of the film. พระเอกตายตอนจบของหนัง
  • A young woman travels through Europe, where she meets different people, and finally falls in love.หญิงสาวเดินทางในยุโรป เมื่อตอนที่เธอพบกับผู้คนที่แตกต่าง และสุดท้ายเธอก็ตกหลุมรัก 
  • In this book, an army invades Britain. ในหนังสือเล่มนี้ กองทัพได้รุกรานอังกฤษ 
  • The main character is very pretty and works in a bookshop.ตัวเอกของเรื่องน่ารักมากและทำงานในร้านขายหนังสือ 
5: ใช้กับประโยคเงื่อนไขที่ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้ หรือ zero conditionals:
  • If it rains, I won't come. ถ้าฝนตน ฉันก็จะไม่มา 
  • If you heat water to 100 degrees, it boils. ถ้าคุณต้มน้าร้อน 100 องศา มันก็จะเดือดจัด 
6: ใช้กับเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ Strangely, เราสามารถใช้กับเหตุการณ์ที่เรากล่าวถึงอนาคต ตามแผนหรือตารางการปฏิบัติที่กำหนดไว้ เช่น 
  • School begins at nine tomorrow. โรงเรียนเปิดเรียนเก้าโมงพรุ่งนี้ 
  • Our train leaves at eleven. รถไฟของเราออกเวลาสิบเอ็ดโมง 
  • What time does the film start? หนังเริ่มฉายเวลาเท่าไหร่ 
  • The plane doesn't arrive at seven, it arrives at seven thirty. เครื่องบินไม่มาถึงตามกำหนดเวลาที่เจ็ดโมง แต่จะมาถึงเวลาเจ็ดโมงครึ่ง 
  • When does the class finish? เลิกเรียกเวลาเท่าไหร่ 
7: เราใช้กับเหตุการณ์ในอนาคต หลังคำพวก  'when', 'until', 'after', 'before' และ  'as soon as' ในประโยค  future sentence:
  • I will call you when I have time. ฉันจะโทรหาคุณเมื่อตอนที่ฉันว่าง 
  • I won't go out until it stops raining. ฉันจะไม่ออกไปข้างนอกถ้าฝนไม่หยุดตก 
  • She'll come as soon as her babysitter arrives. เธอจะมาทันทีเมื่อพี่เลี้ยงเด็กของเธอมาถึง 
  • I'm going to make dinner after I watch the news. ฉันจะไปทำอาหารเย็นหลังจากที่ดูข่าว 
  • I'll give you the book before you go. ฉันจะให้หนังสือกับคุณ ก่อนที่คุณจะไป 
8: เราใช้ simple tense กับ  stative verbs (กริยาที่ไม่สามารถใช้งานกับ continuous tenses) :
  • This soup tastes great. ซุปนี้รสชาติเยี่ยม 
  • You look fabulous. คุณดูเยียมเลย 
  • think she is very pretty. ฉันคิดว่าเธอสวยมาก 
  • am cold. ฉันรู้สึกหนาว 
  • promise I will help you. ฉันสัญญา ว่าฉันจะช่วยคุณ 

Comments