รีวิว หลักการสักเกตข้อสอบเกี่ยวกับ Tense กันอีกรอบ
โดยปกติแล้ว ถ้าเราใช้งานบ่อยๆ ย้ำว่าถ้าใช้บ่อย ๆ เราก็จะสามารถจดจำและใช้ได้ถูกต้องแม่นำ เป็นอัตโนมัติเลยครับ
สำหรับมือใหม่หรือนักเรียนที่เพิ่มเรียน หรือไม่ค่อยมีโอกาสใช้งานบ่อย ๆ ก็ต้อง ขยันหมั่นฝึกทบทวนและทดลองทำข้อสอบบ่อยๆ จะได้ชำนาณและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
หลักๆ แล้ว Tense ในภาษาอังกฤษ ก็จะมี 3 ประการ คือ Past /Present and Future tense
มาดูกันที่อดีตหรือ Past กันครับ
หมายถึงสิ่งต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต อาจะนานมาแล้ว เป็นร้อยพันปี หรือพึ่งเกิดขึ้น เมื่อวาน หรือ ชั่วโมง ก็เป็นได้
โดยปกติแล้ว ข้อสอบวัดความสามารถพื้นฐานของ Past หรือว่าอดีต เราก็มักจะให้คำคุณศัพท์ที่ขยายหรือบ่งบอกว่าเวลานั้นๆ เกิดขึ้นในอดีต เวลาเราทำข้อสอบให้สังเกตุคำเหล่านี้ให้ดี เราก็จะรู้ว่ามันเป็น Past และเลือกคำตอบได้อย่างถูกต้อง
Yesterday เมื่อวาน
Last week อาทิตย์ที่แล้ว
Last Month เดือนที่แล้ว
Last year ปีที่แล้ว
Ago ที่ผ่านมา
ยกตัวอย่างประโยคเช่น I ............ to school yesterday.
a go b went c gone d going
- ข้อนี้เราเห็นคุณศัพท์บอกเวลา Yesterday เราก็สามารถที่จะเลือก คำกริยา เพื่อตอบลงไปในช่องว่างได้ทันที่ คือกริยาช่องที่ 2 ของ Go ได้แก่ ข้อ b went เป็นคำตอบที่ถูกต้อง
อีกสักข้อ
He ................ his mother last month.
a visit b visits c visited d visiting
- ข้อนี้เราใช้หลักการเดียวกันกับข้อ แรก เห็นคุณศัพท์บอกเวลา last month เราก็สามารถที่จะเลือก คำกริยา เพื่อตอบลงไปในช่องว่างได้ทันที่ คือกริยาช่องที่ 2 ของ visit ได้แก่ ข้อ c visited เป็นคำตอบที่ถูกต้อง
แถม เรื่อง คำกริยา ช่อง 2 และ ช่อง 3 ในภาษาอังกฤษ
มี 2 แบบ คือ regular verb and irregular verb แปลเป็นไทยแบบบ้านๆ ว่า แบบปกติ และแบบไม่ปกติ
แบบปกติ regular เวลา ผันเป็นช่อง 2 และ 3 เราสามารถเติ่ม _ed ท้ายคำกริยา เพื่อเป็นช่อง 2 และ 3 เช่น
Kick Kicked Kicked เตะ
Love loved Loved รัก
Smile smiled smiled ยิิ้ม
Jump Jumped Jumped กระโดด เป็นต้น
Note กริยาปกติบางคำที่ลงท้ายด้วย _y ให้เปลียน Y เป็น i ก่อนแล้วจึงเติม -ed เช่น
Study studied studied
เว้นอักษรที่อยู่ด้านหน้า y เป็นสระในภาษาอังกฤษ คือ aeiou ให้เราเติม -ed ได้ทันที เช่น
Play Played played
irregular verb กริยาไม่ปกติ คือกริยาที่ไม่สามารถเติม -ed ท้ายคำได้ ต้องผันให้อยู่ในรูปอื่นๆ แทน แบบนี้ต้องอาศัยการท่องจำ หรือการใช้บ่อย ๆ จึงจะเข้าใจและใช้ได้ถูกต้อง เช่น
Come came come มา
eat ate eaten กิน
take took taken พาไป นำไป
run ran run วิ่ง
drink drank drunk ดื่ม
speak spoke spoken พูด
เป็นต้น
กริยาไม่ปกติบางคำ จะใช้รูปเดียวกัน ทั้ง 3 ช่อง เช่น
Cut cut cut ตัด เป็นต้น
โดยปกติแล้ว ถ้าเราใช้งานบ่อยๆ ย้ำว่าถ้าใช้บ่อย ๆ เราก็จะสามารถจดจำและใช้ได้ถูกต้องแม่นำ เป็นอัตโนมัติเลยครับ
สำหรับมือใหม่หรือนักเรียนที่เพิ่มเรียน หรือไม่ค่อยมีโอกาสใช้งานบ่อย ๆ ก็ต้อง ขยันหมั่นฝึกทบทวนและทดลองทำข้อสอบบ่อยๆ จะได้ชำนาณและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
หลักๆ แล้ว Tense ในภาษาอังกฤษ ก็จะมี 3 ประการ คือ Past /Present and Future tense
มาดูกันที่อดีตหรือ Past กันครับ
หมายถึงสิ่งต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต อาจะนานมาแล้ว เป็นร้อยพันปี หรือพึ่งเกิดขึ้น เมื่อวาน หรือ ชั่วโมง ก็เป็นได้
โดยปกติแล้ว ข้อสอบวัดความสามารถพื้นฐานของ Past หรือว่าอดีต เราก็มักจะให้คำคุณศัพท์ที่ขยายหรือบ่งบอกว่าเวลานั้นๆ เกิดขึ้นในอดีต เวลาเราทำข้อสอบให้สังเกตุคำเหล่านี้ให้ดี เราก็จะรู้ว่ามันเป็น Past และเลือกคำตอบได้อย่างถูกต้อง
Yesterday เมื่อวาน
Last week อาทิตย์ที่แล้ว
Last Month เดือนที่แล้ว
Last year ปีที่แล้ว
Ago ที่ผ่านมา
ยกตัวอย่างประโยคเช่น I ............ to school yesterday.
a go b went c gone d going
- ข้อนี้เราเห็นคุณศัพท์บอกเวลา Yesterday เราก็สามารถที่จะเลือก คำกริยา เพื่อตอบลงไปในช่องว่างได้ทันที่ คือกริยาช่องที่ 2 ของ Go ได้แก่ ข้อ b went เป็นคำตอบที่ถูกต้อง
อีกสักข้อ
He ................ his mother last month.
a visit b visits c visited d visiting
- ข้อนี้เราใช้หลักการเดียวกันกับข้อ แรก เห็นคุณศัพท์บอกเวลา last month เราก็สามารถที่จะเลือก คำกริยา เพื่อตอบลงไปในช่องว่างได้ทันที่ คือกริยาช่องที่ 2 ของ visit ได้แก่ ข้อ c visited เป็นคำตอบที่ถูกต้อง
แถม เรื่อง คำกริยา ช่อง 2 และ ช่อง 3 ในภาษาอังกฤษ
มี 2 แบบ คือ regular verb and irregular verb แปลเป็นไทยแบบบ้านๆ ว่า แบบปกติ และแบบไม่ปกติ
แบบปกติ regular เวลา ผันเป็นช่อง 2 และ 3 เราสามารถเติ่ม _ed ท้ายคำกริยา เพื่อเป็นช่อง 2 และ 3 เช่น
Kick Kicked Kicked เตะ
Love loved Loved รัก
Smile smiled smiled ยิิ้ม
Jump Jumped Jumped กระโดด เป็นต้น
Note กริยาปกติบางคำที่ลงท้ายด้วย _y ให้เปลียน Y เป็น i ก่อนแล้วจึงเติม -ed เช่น
Study studied studied
เว้นอักษรที่อยู่ด้านหน้า y เป็นสระในภาษาอังกฤษ คือ aeiou ให้เราเติม -ed ได้ทันที เช่น
Play Played played
irregular verb กริยาไม่ปกติ คือกริยาที่ไม่สามารถเติม -ed ท้ายคำได้ ต้องผันให้อยู่ในรูปอื่นๆ แทน แบบนี้ต้องอาศัยการท่องจำ หรือการใช้บ่อย ๆ จึงจะเข้าใจและใช้ได้ถูกต้อง เช่น
Come came come มา
eat ate eaten กิน
take took taken พาไป นำไป
run ran run วิ่ง
drink drank drunk ดื่ม
speak spoke spoken พูด
เป็นต้น
กริยาไม่ปกติบางคำ จะใช้รูปเดียวกัน ทั้ง 3 ช่อง เช่น
Cut cut cut ตัด เป็นต้น
Comments
Post a Comment